Dr. Jun Clinic - หมอจุนคลินิก

Dr. Jun Clinic หมอจุนคลินิก
Ulthera SPT ยกกระชับผิวแบบ ไม่ต้องผ่าตัด

Ulthera SPT

นวัตกรรมยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและคงอยู่ยาวนาน

นวัตกรรมยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด

เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและคงอยู่ยาวนาน

Ulthera SPT เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียง อัลตร้าซาวด์ความถี่สูง หรือ HIFU กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใน

ผิวชั้นลึก เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในการยกกระชับ ผสานเข้ากับเทคโนโลยี MFU-V (Microfocus Ultrasound with Visualization) ช่วยให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างของผิวได้แบบ

Real time เพื่อวางแผนการรักษาและส่งพลังงานลงไปในชั้นผิวที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งผลลัพธ์ของการยกกระชับได้สูงสุด 12 เดือน ซึ่งผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป

ในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการดูแลตัวเองของคนไข้เองร่วมด้วย

Ulthera SPT เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียง อัลตร้าซาวด์ความถี่สูง หรือ HIFU กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นลึก เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในการยกกระชับ ผสานเข้ากับเทคโนโลยี MFU-V (Microfocus Ultrasound with Visualization) ช่วยให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างของผิวได้แบบ Real time เพื่อวางแผนการรักษาและส่งพลังงานลงไปในชั้นผิวที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งผลลัพธ์ของการยกกระชับได้สูงสุด 12 เดือน ซึ่งผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการดูแลตัวเองของคนไข้เองร่วมด้วย

ข้อแตกต่าง

ระหว่างเครื่องยกกระชับ HIFU ทั่วไป และ Ulthera SPT

ระหว่างเครื่องยกกระชับ HIFU ทั่วไป

และ Ulthera SPT

ข้อแตกต่างระหว่าง Ulthera SPT และ HIFU ทั้วไป

Ulthera SPT รักษาปัญหาอะไรได้บ้าง ?

Ulthera SPT

รักษาปัญหาอะไรได้บ้าง ?

Ulthera SPT ความลึกในการปล่อยพลังงาน
  1. หัว ( ความลึกของพลังงาน ) 1.5 มิลลิเมตร
    ช่วยลดเรือนริ้วร้อยตื้น ๆ ปรับผิวให้เรียบเนียน
  2. หัว ( ความลึกของพลังงาน ) 3.0 มิลลิเมตร
    ช่วยกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณรอบดวงตา ใต้ตา และหน้าผาก รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
  3. หัว ( ความลึกของพลังงาน ) 4.5 มิลลิเมตร
    ช่วยกระชับผิวในจุดที่เป็นริ้วรอยร่องลึก เช่น บริเวณแก้ม เหนียง ลำคอ
  1. หัว ( ความลึกของพลังงาน ) 1.5 มิลลิเมตร
    ช่วยลดเรือนริ้วร้อยตื้น ๆ ปรับผิวให้เรียบเนียน
  2. หัว ( ความลึกของพลังงาน ) 3.0 มิลลิเมตร
    ช่วยกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณรอบดวงตา
    ใต้ตา และหน้าผาก รวมถึงกระตุ้นการสร้าง
    คอลลาเจนในชั้นผิว
  3. หัว ( ความลึกของพลังงาน ) 4.5 มิลลิเมตร
    ช่วยกระชับผิวในจุดที่เป็นริ้วรอยร่องลึก
    เช่น บริเวณแก้ม เหนียง ลำคอ

Ulthera SPT สามารถทําในบริเวณใดได้บ้าง ?

Ulthera SPT

สามารถทําในบริเวณใดได้บ้าง

  1. รอบดวงตาและคิ้ว
    ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา ปัญหาหนังตาตก กระชับถุงใต้ตา
  2. ใบหน้าและแก้ม
    ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ผิวหน้าดูเต่งตึงมากขึ้น
  3. กรอบหน้า
    ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น กรอบหน้าชัดเจนมากขึ้น
  4. คางและลำคอ
    ช่วยยกกระชับผิว ลดปัญหาคางสองชั้น เหนียงใต้คาง และรอยย่นบริเวณลำคอ
  1. รอบดวงตาและคิ้ว
    ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา
    ปัญหาหนังตาตก กระชับถุงใต้ตา
  2. ใบหน้าและแก้ม
    ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
    ผิวหน้าดูเต่งตึงมากขึ้น
  3. กรอบหน้า
    ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
    กรอบหน้าชัดเจนมากขึ้น
  4. คางและลำคอ
    ช่วยยกกระชับผิว ลดปัญหาคางสองชั้น
    เหนียงใต้คาง และรอยย่นบริเวณลำคอ

ทั้งนี้การเลือกใช้หัวยิงแต่ละขนาดขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของคนไข้ โดยแพทย์จะประเมินและวางแผนการรักษาเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในการยกกระชับและฟื้นฟูสภาพผิวตามที่คนไข้คาดหวัง

คำถามที่พบบ่อย

การทำ Ulthera SPT เจ็บไหม ?

ความรู้สึกระหว่างทำการรักษาจะมีความเจ็บอยู่ประมาณหนึ่ง เนื่องจากพลังงานที่ถูกปล่อยออกมาเป็นแบบเข้มข้น โดยความร้อนที่เกิดขึ้นจะอยู่ที่ประมาณ 60-70 ํC ทำให้เส้นใยอิลาสตินหดตัวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่เพื่อให้เกิดผลของการยกกระชับของผิว แต่แพทย์จะมีการแปะยาชาร่วมด้วยเพื่อให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลาย และสบายผิวมากขึ้นระหว่างทำการรักษา

สามารถสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์ได้หลังการรักษา และเห็นผลชัดเจนขึ้นใน 2-3 เดือน โดยผลของการยกกระชับสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาผิวของคนไข้ รวมถึงการดูแลตัวเองและกิจวัตรประจำวันหลังจากการรักษา

ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ที่คาดหวังหลังจากการรักษา

ปลอยภัย ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลทั้ง

      • องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA)
      • องค์การอาหารและยาประเทศไทย (อย.)
      • รวมทั้ง Ulthera SPT ยังถูกเลือกใช้ในคลินิกชั้นนำทั่วโลกและในประเทศไทย

สามารถทำได้ทั้ง โปรแกรมฟิลเลอร์เติมเต็มชั้นผิว, โบท็อกซ์ลดริ้วรอย รวมถึงโปรแกรมยกกระชับอื่น ๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพของการยกกระชับทั้ง

แต่ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรักษาร่วมกับโปรแกรมอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังการรักษา

การเตรียมตัวก่อนรักษาด้วย Ulthera SPT

การเตรียมตัวก่อนรักษา

ด้วย Ulthera SPT

  • ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาให้เหมาะสม
  • งดการใช้ยาบางชนิด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน รวมถึงวิตามิน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่าง ๆ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • หากมีข้อกังวล รวมถึงมีโลหะหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษา

การดูแลตัวเองหลังการรักษาด้วย Ulthera SPT

การดูแลตัวเองหลังการรักษา

ด้วย Ulthera SPT

  • หลีกเลียงแสงแดดจัด การอาบน้ำร้อน การอบซาวหน้า หรือกิจกรรมที่ทำให้ผิวสัมผัสความร้อน 4-5 วัน หลังจากการรักษา
  • ทาครีมกันแดด SPF 50 ขึ้นไป อย่างเป็นประจำและสม่ำเสมอ
  • งดการนวดหรือกดในบริเวณที่ทำการรักษาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวม แดง หรือระคายเคืองติดต่อกันหลายวันควรปรึกษาแพทย์หรือคลินิกที่เข้ารับการรักษาทันที
  • ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังการรักษา

ผลข้างเคียงหลังการรักษาที่อาจเกิดขึ้นได้

ผลข้างเคียงหลังการรักษา

ที่อาจเกิดขึ้นได้

  • อาการบวม แดง ในคนไข้บางท่านอาจะเกิดอาการบวมแดงขึ้นเล็กน้อยหลังการรักษา เนื่องจากการใช้พลังงานที่ค่อนข้างสูงเพื่อผลของการยกกระชับ
  • ความรู้สึกเจ็บหรือระบม ในจุดที่ทำการรักษาใกล้กับกระดูก เช่น กรามหรือโหนกแก้ม บริเวณดังกล่าวอาจมีความรู้สึกเจ็บหรือระบมเกิดขึ้นได้

อาการข้างต้นเป็นสิ่งที่ อาจเกิดขึ้นได้หรืออาจไม่เกิดขึ้นเลยหลังการรักษา ซึ่งสามารถลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ด้วยการเลือกรับการรักษาจากแพทย์ผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์ รวมถึงคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีใบรับรองการประกอบกิจการและใบรับรองโปรแกรมการรักษาต่าง ๆ

Ulthera SPT ไม่เหมาะกับใคร ?

  1. ผู้ที่มีแผลเปิดหรือการติดเชื้อบนผิวหนังบริเวณที่จะรักษา
  2. ผู้ที่มีโรคผิวหนังเรื้อรังหรือโรคผิวหนังที่ยังไม่หายดี
  3. ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ง่าย
  4. สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  5. ผู้ที่มีโลหะ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการรักษาทางการแพทย์ฝังในร่างกาย
  6. ผู้ที่มีโรคหรือภาวะที่ส่งผลต่อการหายของแผล

ข้อควรระวังในการรักษาด้วย Ulthera SPT

  1. แพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญ
    หากแพทย์ไม่มีความชำนาญอาจส่งพลังงานไปยังตำแหน่งที่ควรหลีกเลี่ยง ควรเลือกเข้ารับการรักษาจากแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญ ผ่านการอบรมเกี่ยวกับการใช้ Ulthera SPT โดยเฉพาะ และมีใบรับรองหลักสูตรที่อบรม

  2. เครื่องปลอม หรือเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน
    ปัจจุบันมี HIFU ปลอมที่ทำรูปลักษณ์คล้ายกับเครื่อง Ulthera SPT หรือเครื่องที่ไม่ได้ผ่านการรับรอง อาจทำให้เกิดพลังงานไม่สม่ำเสมอ ผิวไหม้ หรือผลลัพธ์ที่ไม่ตรงตามคาดหวัง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า คลินิกใช้เครื่อง Ulthera SPT ของแท้ ที่ได้รับการรับรองจาก Merz Aesthetics ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จาก การมีสติกเกอร์รับรองหรือใบประกาศจากบริษัทนำเข้า

  3. การปล่อยพลังงานต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด
    ผิวของคนไข้รับความรู้สึก หรือแม้กระทั้งการทนความเจ็บของแต่ละท่านโดยปกติแล้วจะไม่เท่ากัน ในบางครั้งคนไข้มีความรู้สึกเจ็บระหว่างทำการรักษา รู้สึกทนไม่ไหวหรือทรมาน ทำให้แพทย์จำเป็นต้องปรับลดการใช้พลังงานลง ผลลัพธ์ของการรักษาหรือการยกกระชับลดลงตามไปด้วย หากมีความกังวลสามารถแจ้งแพทย์ก่อนทำการรักษาเพื่อเพิ่มระยะเวลาในการแปะยาชา เพื่อช่วยให้รู้สึกสบายผิวมากขึ้นและความรู้สึกเจ็บลดน้อยลงได้

     

  4. การทำการรักษาซ้ำบ่อยจนเกินไป
    การทำงานของเครื่อง Ulthera SPT คือการส่งพลังงานความร้อนลงไปใต้ผิว และจำเป็นต้องมีการพักฟื้นของผิว เพื่อให้เกิดผลของการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและการยกกระชับขึ้น ซึ่งผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนประมาณ 2-3 เดือนหลังจากทำการรักษา หากทำซ้ำบ่อยเกินไป นอกจากจะไม่ทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้น ในทางกลับกันพลังงานอาจะข้าไปทำลายโครงสร้างของผิว ทำให้ผิวตอบลงได้

  5. การดูแลผิวหลังการรักษาไม่ถูกวิธี
    หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังการรักษา รวมทั้งการดูแลรักษาผิวไม่เหมาะสม มีโอกาสทำให้เกิดผลที่ไม่พึงประสงค์หลังการรักษาได้ เช่น ผิวบริเวณที่ทำการรักษาคล้ำขึ้น หรือเกิดการระคายเคืองของผิวขึ้นได้ จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดและใช้ครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง รวมถึงทาครีมกันแดด SPF 50+ ขึ้นไป อย่างเป็นประจำ