Aestox เป็นหนึ่งในแบรนด์โบทูลินัมท็อกซินชนิด A หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ โบท็อกซ์จากประเทศเกาหลีใต้ ที่มีความบริสุทธิ์สูงใกล้เคียงกับแบรนด์จากฝั่งอเมริกา บริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ออกฤทธิ์ไว และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
Aestox มีการวิจัยทั้งในไทยและต่างประเทศมาอย่างยาวนาน ทำให้ Aestox มีโอกาสในการกระตุ้นให้เกิดการดื้อหรือแพ้ยาน้อยกว่า หรือแทบไม่เกิดผลข้างเคียงหลังฉีด
หลังฉีดคนไข้สามารถสัมผัสถึงผลลัพธ์ได้ทันที ซึ่งสามารถเห็นผลชัดเจนมากขึ้นภายใน 3-7 วันหลังฉีด และเห็นผลลัพธ์ได้เต็มที่ 14 วันหลังฉีด
ด้วยคุณสมบัติการกระจายตัวของยา ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญยังขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด ปัญหาของผิวคนไข้ และประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำการรักษา ยังส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีด ใบหน้าของคนไข้ดูเป็นธรรมชาติไม่แข็ง หรือตึงจนเกินไป
โบท็อกซ์ มีหลายจุดบนใบหน้าและร่างกายที่สามารถฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของการรักษาตามที่คนไข้ต้องการ โดยแต่ละจุดมีวัตถุประสงค์ในการฉีดที่แตกต่างกัน โดยที่ Dr. Jun Clinic – หมอจุนคลินิก แพทย์จะแบ่งตำแหน่งจุดที่ฉีดออกเป็น 3 กลุ่มการรักษาหลัก คือ โบท็อกซ์ริ้วรอย , โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้าและกราม , โบท็อกซ์รักแร้เพื่อลดเหงื่อ และโบท็อกซ์รักษาอาการออฟฟิศซินโดรม
โบท็อกซ์ริ้วรอย เป็นการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ลงไปบนใบหน้า เพื่อลดการเกิดริ้วรอยบนผิวจากการแสดงสีหน้าของคนไข้ หลังจากฉีดโบท็อกซ์ลงไปในบริเวณดังกล่าว กล้ามเนื้อจะคลายตัวออกชั่วคราว ส่งผลให้เวลาที่คนไข้ต้องการแสดงสีหน้า การเกิดขึ้นของริ้วรอยลดลงหรือไม่เกิดริ้วรอยเลย
โบท็อกลิฟกรอบหน้า (Botox Face Lifting) หรือ โบท็อกซ์กรอบหน้า (jaw botox) เป็นการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ลงไปบนใบหน้าของคนไข้ เพื่อแก้ไขปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยไม่กระชับ หรือรูปหน้าไม่ชัดเจน โดยจุดที่แพทย์ทำการฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ระหว่างแนวกรอบหน้าหรือลำคอ ทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการหดตัวทำ ช่วยให้รูปหน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด ใบหน้ามีมิติและยกกระชับมากขึ้น
โบท็อกซ์กราม เป็นการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ลงไปบนใบหน้าของคนไข้บริเวณแนวกรามเพื่อให้กล้ามเนื้อในบริเวณดังกล่าวเกิดการคลายตัว เพื่อผลลัพธ์ให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์กรามจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในคนไข้ที่มีรูปกรามชัดจากการทำงานของกล้ามเนื้อมากกว่าคนไข้ที่มีกระดูกรามใหญ่ และในช่วงแรกหลักฉีดโบท็อกซ์กรามอาจมีความรู้สึกเคี้ยวอาหารไม่ค่อยสะดวก จะสามารถหายได้เองเมื่อโบท็อกซ์ทำงานได้เต็มที่ แต่ทั้งนี้ควรรับบริการจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
โบท็อกรักแร้ หรือ โบท็อกซ์ลดเหงื่อ เป็นการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ลงไปยังผิวหนังบริเวณรักแร้ของคนไข้ เพื่อระงับการทำงานชั่วคราวของสารสื่อประสาทอะซีทิลคอลีน (Acetylcholine) ซึ่งสารสื่อประสาทนี้ทำหน้าที่ควบคุมการผลิตเหงื่อ เมื่อถูกระงับชั่วคราวทำให้ปริมาณเหงื่อที่ออกหลังจากฉีดโบท็อกซ์ลดลงหรือแทบไม่มีเหงื่อเลย
ออฟฟิศซินโดรม เป็นอาการที่กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งส่งผลทำให้เกิดอาการปวด ซึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมการทำงานซ้ำๆ หรือ ท่าทางที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในผู้ที่ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ซึ่งโบท็อกซ์ออฟฟิศซินโดรม เป็นการฉีดโบท็อกซ์ลงไปยังบริเวณที่ต้องการรักษา เพื่อให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งคลายตัวออก ช่วยให้ให้อาการปวดลดลงได้ แต่ทั้งนี้ควรรับบริการจากแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
การเตรียมตัวก่อนการฉีดโบท็อกซ์อย่างถูกวิธี เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง และเป็นการลดโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงจากการรักษาที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยยืดอายุผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดโบท็อกซ์ให้อยู่ได้ยาวนานมากขึ้น
หากมีโรคเกี่ยวระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อ ประวัติการแพ้ยา แพ้โบท็อกซ์ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษา รวมถึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมและได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง
งดการทานยา วิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิดที่มีส่วนส่งผลทำให้ เลือดหยุดไหลยากหรือทำให้ร่างกายร้อนชั่วคราว เป็นเวลาอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ เช่น ยาแอสไพริน, ยากลุ่ม NSAIDs, วิตามินอี, น้ำมันปลา, เป็นต้น หากมีโรคประจำตัวหรือจำเป็นต้องทานยาหรือวิตามิน อาหารเสริมบางชนิดต่อเนื่อง ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนการหยุดทาน
พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อช่วยลดอาการบวมหลังฉีดโบท็อกซ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ และทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์
Aestox ต่างจากโบท็อกซ์แบรนด์อื่นในเรื่องของความบริสุทธิ์และความปลอดภัยสูง ออกฤทธิ์ไว้และให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ แต่ทั้งนี้ควรรับการรักษาจากแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหลังและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
Aestox อยู่ได้นาน อยู่ได้นานประมาณ 3 – 6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของคนไข้ ปริมาณที่ใช้ในการฉีด ตำแหน่งที่ฉีด รวมถึงการดูแลตัวเองและกิจวัตรประจำวันของคนไข้หลังการรักษา ซึ่งข้อสำคัญเลย โบท็อกซ์ไม่ชอบความที่สะสมมากจนเกินไป เช่นการอบซาวน่า ไดร์เป่าผม เป็นต้น สามารถฉีดซ้ำได้เมื่อรู้สึกว่าริ้วรอยเริ่มกลับมา หรืออาจปรึกษาแพทย์ก่อนจะฉีดซ้ำ
หลังฉีด Aestox จะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในระยะ 3 – 7 วัน และเห็นผลลัพธ์สูงสุดเมื่อผ่านไป 14 วันหลังการรักษา
ผู้ที่ไม่ควรฉีด Aestox ได้แก่ สตรีที่กำลังตังครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ผู้ที่มีประวัติแพ้โบท็อกซ์ หรือมียาที่รับประทานเป็นประจำที่อาจมีผลต่อการทำงานของโบท็อกซ์ เพื่อความปลอดภัยและให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังควรปรึกษาแพทย์และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินวางแผนการรักษา
ฉีด Aestox แล้วจะทำให้หน้าแข็ง ไม่จริงเสมอไป ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์ขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดของแพทย์ ปริมาณที่ใช้และตำแหน่งในการฉีด โดยแพทย์จะวางแผนและออกแบบการรักษาให้เหมาะสมเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังและดูเป็นธรรมชาติ
การใช้ Aestox ของแท้ได้มาตรฐาน เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ลดโอกาสการเกิดความเสี่ยงและผลข้างเคียง เช่น การแพ้หรือดื้อโบท็อกซ์ อีกทั้งการรับการรักษาจากแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์ ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการรักษาและผลลัพธ์ตามที่คนไข้คาดหวัง โดยวิธีการตรวจสอบ Aestox Botox ของแท้มีดังนี้
ดูแลผิวพรรณ สุขภาพ และปรับรูปหน้า
ด้วยผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่
ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล
เมนู
บริการของเรา
ติดต่อเรา
169/84 หมู่4
หมู่บ้านสตาอเวนิว 5
ตำบลสันผักหวาน
อำเภอหางดง เชียงใหม่
50230
ดูแลผิวพรรณ สุขภาพ และปรับรูปหน้า ด้วยผลิตภัณฑ์
และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล
ติดต่อเรา
169/84 หมู่4 หมู่บ้านสตาอเวนิว 5 ตำบลสันผักหวาน
อำเภอหางดง เชียงใหม่ 50230
ติดต่อเรา
169/84 หมู่4
หมู่บ้านสตาอเวนิว 5
ตำบลสันผักหวาน
อำเภอหางดง เชียงใหม่
50230